นักชีววิทยาส่วนใหญ่ต่างให้การยอมรับว่า
การดำรงชีพถือเป็นพื้นฐานตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
ส่วนสิ่งที่ไม่ได้ดำเนินไปธรรมชาติหรือผิดปกติคือ การเจ็บไข้ หรือความตาย
หรือความไม่สามารถดำรงคงอยู่อย่างนิรันดรได้นันเอง
ประเด็นนี้เป็นสิ่งท้าทายมนุษย์ให้ค้นคว้าหาคำตอบว่าเพราะสาเหตุใดความเจ็บไข้ได้ป่วย และความบกพร่องต่าง ๆ
จึงกลายเป็นอุปสรรคมิให้อายุขัยของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายสามารถดำรงอยู่ภายใต้ครรลองของธรรมชาติอย่างคงทนถาวร
ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงไม่เคยได้ยินบุคคลพูดในทำนองว่า
ทำไมนายอะลี หรือนางซัยนับจึงมีชีวิตอยู่ และมีสุขภาพสมบูรณฺ์แข็งแรงสามารถมีชีวิตยืนยาวต่อไปได้อีก
ในทางกลับกัน พวกเรามักจะได้ยินคำพูดที่ตรงข้ามกับคำพูดข้างต้นเสมอว่า ทำไมสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย โดยเฉพาะมนุษย์จึงต้องตาย ทำไมไม่สามารถดำรงคงอยู่ตลอดไปได้ทั้งที่มนุษย์ส่วนใหญ่มุ่งหวังเช่นนั้น
ฉะนั้น หน้าที่จะพูดในทางกลับกันว่า ทำไมสิ่งมีชีวิตบางชนิดจึงมีอายุขัยสั้น แทนคำพูดที่ว่า ทำไมบุคคลนั้นจึงมีอายุยืน ทั้งนี้เป็นที่รับรู้กันดีว่าสิ่งมีชีวิตจะต้องประสบกับชะตากรรมเช่นนี้อย่างแน่นอน
ถ้าหากมนุษย์ศึกษาประััวัติศาสตร์ หรือคัมภีร์ที่ถูกประทานจากฟากฟ้า หรือแหล่งข้อมูลทางวิชาการของกลุ่มชน มนุษย์ก็จะพบว่ามีผู้คนมากมายในประชาชาติก่อนหน้านั้น เคยมีอายุขัยที่ยืนยาวมาแล้ว เช่น ท่านศาสดานูฮฺ (อ.) ดังมีหลักฐานยืนยันจากคำสอนของศาสนายูดาย (ยิว) คริสต์ และอิสลาม ว่าท่านศาสดานูฮฺ (อ.) ได้พยายามเชิญชวนประชาชาติของท่านให้ศรัทธาในความเป็นเอกะของพระผู้เป็นเจ้า เป็นเวลานานถึง ๙๕๐ ปี ซึ่งไม่ได้รวมอายุขัยก่อนหน้าที่ท่านจะทำการประกาศเชิญชวนประชาชน และหลังจากนั้น แน่นอนว่าเมื่อรวมอายุขัยทั้งหมดเข้าด้วยกันทุกคนต้องแปลกใจว่าเป็นไปได้อย่างไร
อายุขัยของท่านศาสดาอีซา (อ.) อัล-กุรฺอานตรัสว่า ท่านศาสดาอีซา (อ.) มิได้ถูกสังหาร และมิได้ถูกตรึงบนไม้กางเขนจากน้ำมือของพวกยิวในยุคสมัยนั้นแต่อย่างใด แต่ทว่า จนถึงขณะนี้ท่านยังคงดำรงชีวิตอยู่ภายใต้ความกรุณาของพระผู้เป็นเจ้ามากเกินกว่า ๒,๐๐๐ ปี จากที่กล่าวมาข้างต้นพอจะสรุปได้ว่า การมีอายุขัยที่ยืนยาวเป็นเรื่องปกติธรรมดาและเป็นไปตามธรรมชาติ การศึกษาวิจัยทางการแพทย์ก็เพื่อนำไปสู่การลดปัจจัยและตัวการที่ขัดขวางการดำรงชีวิตอยู่ให้เหลือน้อยที่สุดและหวังว่าบางครั้งพวกเขาอาจจะประสบความสำเร็จ แต่ถ้ามีบุคคลใดคัดค้านว่าการมีอายุยืนเกินปกติของมนุษย์เป็นสิ่งเหลวไหล ย่อมไม่มีคำตอบอื่นใดที่จะมอบให้กับเขา นอกจากจะต้องกล่าวว่า ถ้าเช่นนั้น ก็แสดงว่าเขาต้องปฏิเสธผลการศึกษาวิจัยข้างต้นว่าไม่เป็นความจริง ขณะเดี่ยวกันไม่มีผู้ใดคัดค้านทฤษฎีดังกล่าว เนื่องจากนุษย์ทุกคนต่างต้องการสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง และการมีอายุยืน
อาจมีคนกล่าวว่าการมีอายุยืนเป็นสิ่งผิดปกติวิสัย และขัดกับธรรมชาติ สามารถกล่าวได้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด ถ้าสิ่งนั้นเป็นไปตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อสำแดงเดชานุภาพให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของมนุษย์ เฉกเช่นที่พระองค์ได้ทรงสำแดงให้ประชาชาติก่อนหน้านี้ได้ประจักษ์มาแล้ว เช่น กรณีที่พระองค์ทรงบันดาลให้ไฟเผาไหม้ท่านศาสดาอิบรอฮีม (อ.) เย็นลง
ด้วยเหตุนี้ การยอมรับว่าการมีอายุยืนของท่านอิมามมะฮฺดียฺ (อ.) เป็นปาฏิหารย์ที่อัลลอฮฺทรงประทานให้เป็นพิเศษย่อมเป็นคำตอบที่ง่ายดายอย่างยิ่ง